คู่สกุลเงิน GBP/USD ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ แม้ว่าจะไม่มีเหตุผลเฉพาะหรือเหตุผลในท้องถิ่นที่ชัดเจนสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็ตาม ในระหว่างวัน ไม่มีรายงานทางเศรษฐกิจมหภาคหรือเหตุการณ์สำคัญใด ๆ ทั้งจากสหราชอาณาจักรหรือสหรัฐอเมริกา สำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ ตอนนี้เขาเริ่มมีการปรากฏตัวต่อสาธารณชนทุกวันและให้คำแถลงประมาณ 15 ครั้งต่อวัน ซึ่งเขาน่าจะลืม 14 ครั้งภายในตอนเย็น ข้อสังเกตนี้ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นการประชดประชัน ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ นักวิเคราะห์ได้ติดตามจำนวนคำแถลงที่ไม่เป็นความจริงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเฉลี่ยประมาณ 14.7 ครั้งต่อวัน

ดังนั้นคำแนะนำข้อแรกของเราสำหรับผู้เข้าร่วมตลาดคือ หยุดการซื้อขายตาม "ปัจจัยของทรัมป์" เขาอ้างว่าจะยุติสงครามในยูเครนภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังจากได้รับเลือกตั้ง และจะกำหนดอัตราภาษีกับจีนในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งไม่มีสิ่งไหนที่เป็นจริง เราแสดงความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของเขาในการบังคับใช้ภาษีต่อแคนาดาและเม็กซิโกภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จนถึงขณะนี้ การตัดสินใจของเขา ได้แก่ การปิดพรมแดนกับเม็กซิโก การถอนตัวออกจาก WHO การยกเลิกทุกการกำหนดเพศนอกเหนือจากแบบดั้งเดิม และการฟื้นฟูโทษประหารชีวิต กล่าวโดยสรุป ทรัมป์มุ่งเน้นไปที่การออกคำสั่งที่มีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

เรามองว่าคู่สกุลเงิน GBP/USD กำลังอยู่ในช่วงปรับฐานในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรืออาจจะนานกว่านั้น ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยทางเทคนิคเป็นหลัก ในขณะที่บางคนอาจคิดว่าการเพิ่มขึ้นของเงินปอนด์เกิดขึ้นพร้อมกับที่ทรัมป์สาบานตน ซึ่งนั่นไม่ใช่กรณี ในความเป็นจริงแล้ว เงินปอนด์เริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ก่อนการสาบานตนของทรัมป์ และทรัมป์ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวนี้ อย่างไรก็ตาม เขาได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้

ในอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ เราจะได้เห็นการประชุมครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษสำหรับปี 2025 คำถามคือ อะไรที่สำคัญกว่าสำหรับตลาด—คำสัญญาว่างเปล่าของทรัมป์หรือการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมของธนาคารกลางต่างๆ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยหลัก ในขณะที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่เงินสกุลอังกฤษจะเริ่มอ่อนค่าลงอีกครั้งภายในสัปดาห์

ในกรอบเวลา 24 ชั่วโมง เงินปอนด์กำลังเข้าใกล้เส้น Kijun-sen ที่มีความสำคัญ ซึ่งอาจทำหน้าที่เป็นจุดเด้ง การเด้งขึ้นจากเส้นนี้อาจเป็นสัญญาณของการกลับมาของแนวโน้มขาลง เรายังไม่สนับสนุนให้ตลาดเพิกเฉยต่อทรัมป์หรือคำแถลงของเขา อย่างไรก็ตาม ตลาดมีเวลาเพียงพอที่จะตอบสนองต่อการขู่เรื่องภาษีการค้าของเขา ซึ่งทำไว้ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเป็นประธานาธิบดี ขณะที่ดูไปข้างหน้า ตลาดอาจตอบสนองต่อการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมและผลกระทบที่เกิดขึ้นเท่านั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าหากเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปจะไม่อยู่เฉย ๆ; มันจะกำหนดภาษีต่อการนำเข้าจากสหรัฐด้วยเช่นกัน แม้ว่าสหภาพยุโรปอาจได้รับผลกระทบมากกว่า แต่สหรัฐก็คงไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์อย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

ความผันผวนเฉลี่ยของคู่สกุลเงิน GBP/USD ในช่วงห้าวันทำการที่ผ่านมาอยู่ที่ 104 pips ซึ่งถือว่า "สูง" ดังนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม เราคาดว่าการเคลื่อนไหวจะอยู่ในช่วงที่จำกัดโดยระดับ 1.2213 และ 1.2421 ช่องสัญญาณ linear regression ที่สูงกว่ามีทิศทางลง ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มที่เป็นขาลง ส่วนตัวชี้วัด CCI เข้าสู่โซนซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ในการกลับมาของแนวโน้มขาลง

ระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุด:

• S1 – 1.2268
• S2 – 1.2207
• S3 – 1.2146

ระดับแนวต้านที่ใกล้ที่สุด:

• R1 – 1.2329
• R2 – 1.2390
• R3 – 1.2451

คำแนะนำในการซื้อขาย:

คู่สกุลเงิน GBP/USD ยังคงมีแนวโน้มขาลง การเปิดสถานะซื้อยังไม่ถูกรวมอยู่ในการพิจารณา เพราะเราเชื่อว่าปัจจัยการเติบโตทั้งหมดของสกุลเงินอังกฤษได้ถูกตลาดบาเกินจนไม่เห็นปัจจัยใหม่ๆ หากคุณทำการซื้อขายด้วย "เทคนิคเพียวๆ" สถานะซื้อมีได้โดยมีเป้าหมายที่ 1.2390 และ 1.2421 ถ้าราคาสามารถอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม คำสั่งขายยังคงมีความสำคัญมากกว่า โดยมีเป้าหมายที่ 1.2207 และ 1.2146 โดยต้องให้ราคากลับไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

การอธิบายภาพประกอบ:

Linear Regression Channels ช่วยในการกำหนดแนวโน้มปัจจุบัน หากทั้งสองช่องสัญญาณสอดคล้องกัน แสดงถึงแนวโน้มที่เข้มแข็ง

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (ตั้งค่า: 20,0, smoothed) กำหนดแนวโน้มระยะสั้นและเป็นแนวทางในการซื้อขาย

Murray Levels ทำหน้าที่เป็นเป้าหมายของการเคลื่อนไหวและการแก้ไข

Volatility Levels (เส้นสีแดง) แสดงถึงช่วงราคาที่คาดการณ์ได้ในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้าบนพื้นฐานการอ่านความผันผวนปัจจุบัน

ตัวชี้วัด CCI: หากเข้าสู่ภูมิต้านทาน (ต่ำกว่า -250) หรือภูมิซื้อมากเกินไป (สูงกว่า +250) จะบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มในทิศทางตรงกันข้าม