การวิเคราะห์รายงานเศรษฐกิจมหภาค:

มีเหตุการณ์มหภาคเพียงไม่กี่เหตุการณ์ที่กำหนดไว้สำหรับวันศุกร์ เนื่องจากฤดูกาลวันหยุดยังไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตามมีรายงานหนึ่งที่โดดเด่น ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาด นั่นคือ ดัชนีการผลิต ISM ของสหรัฐฯ คาดว่าดัชนีจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเดือนธันวาคม ยังคงอยู่ในช่วงระหว่าง 48.3 ถึง 48.5 แต่ผู้ค้าอาจตีความสถานการณ์แตกต่างออกไป เนื่องจากการคาดการณ์ที่เป็นกลาง ทำให้ง่ายขึ้นที่ข้อมูลจริงจะเบี่ยงเบนไปจากข้อมูลที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้เราคาดการณ์ว่าตลาดจะมีความเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ในช่วงการซื้อขายของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ เยอรมนีจะเปิดเผยข้อมูลการว่างงานและคำร้องขอยื่นว่าตกงาน ซึ่งรายงานเหล่านี้มีอิทธิพลน้อยกว่ามาก

การวิเคราะห์เหตุการณ์พื้นฐาน:

ปัจจุบันอาจจะไม่มีเหตุการณ์พื้นฐานที่น่าสนใจมากนักในวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ตลาดดูเหมือนจะไม่ต้องการคำพูดหรือความคิดเห็นใหม่ๆจากตัวแทนธนาคารกลางเกี่ยวกับนโยบายการเงิน อย่างที่เห็นได้จากการซื้อขายในวันพฤหัสบดี การประชุมของธนาคารกลางทั้งสามแห่งเพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อเร็วๆนี้ และผู้เข้าร่วมตลาดก็ได้รับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและการดำเนินการในอนาคตของธนาคารเหล่านี้แล้ว เราเชื่อว่าการประชุมเหล่านี้ส่งสารที่ชัดเจนถึงผู้ค้าคือดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นอีก

ข้อสรุปทั่วไป:

ในวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ ผู้ค้าสามารถคาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นในทั้งสองคู่สกุลเงินได้อย่างสมเหตุสมผล อย่างน้อยจนกว่าจะถึงช่วงการซื้อขายในสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรายงานดัชนี ISM Manufacturing ของสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ค่าดอลลาร์เพิ่มขึ้นหรือลดลง

กฎสำคัญสำหรับระบบการเทรด:

1. ความแข็งแรงของสัญญาณกำหนดโดยระยะเวลาที่ใช้ในการเกิดสัญญาณ (ตีกลับหรือทะลุระดับ) ยิ่งใช้เวลาน้อยยิ่งดี
2. หากเกิดสัญญาณเท็จสองครั้งขึ้นไปใกล้กับระดับนั้น สัญญาณต่อไปจากระดับนั้นควรถูกละเว้น
3. ในตลาดแนวราบ อาจมีสัญญาณเท็จจำนวนมากหรือไม่มีเลย ควรหยุดการซื้อขายเมื่อเริ่มเห็นสัญญาณการควบรวม
4. การเทรดควรเปิดในช่วงตลาดยุโรปจนถึงกลางตลาดอเมริกา และควรปิดการเทรดด้วยมือหลังจากนั้น
5. ในกรอบเวลาแผนภูมิรายชั่วโมง การเทรดจากสัญญาณ MACD ควรทำในช่วงที่มีความผันผวนและมีแนวโน้มที่ได้รับการยืนยันจากเส้นแนวโน้มหรือช่องแนวโน้มเท่านั้น
6. หากระดับสองระดับอยู่ใกล้กันมาก (ห่างกัน 5-20 จุด) ควรถือว่าเป็นโซนแนวต้านหรือแนวรับ
7. หลังจากไปในทิศทางที่ถูกต้อง 15-20 จุด ให้ตั้งค่า Stop Loss ไว้ที่ Break-even

ข้อมูลบนแผนภูมิ:

ระดับแนวรับและแนวต้าน: เป้าหมายสำหรับการเปิดคำสั่งซื้อหรือขาย เป็นจุดที่เหมาะสมในการวาง Take Profit

เส้นสีแดง: เส้นแนวโน้มหรือช่องทางสะท้อนทิศทางปัจจุบันของแนวโน้มและบ่งบอกทิศทางที่ควรซื้อขาย

MACD Indicator (14,22,3): เป็นกราฟแถบและเส้นสัญญาณที่ทำหน้าที่เป็นอินดิเคเตอร์เสริมและแหล่งสัญญาณ

เหตุการณ์และรายงานข่าวสำคัญ: โดยทั่วไปจะแสดงในปฏิทินเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงิน ควรระมัดระวังหรือสูญเสียออกจากตลาดระหว่างเหตุการณ์เหล่านี้เพื่อลดความเสียหายจากการพลิกกลับของราคาอย่างรวดเร็ว

การเทรดทุกครั้งอาจไม่มีกำไร ความสำคัญของความสำเร็จในระยะยาวในการเทรด Forex คือการพัฒนากลยุทธ์ที่ชัดเจนและการบริหารเงินที่มีประสิทธิภาพ