แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปีในยูโรโซนจะเพิ่มขึ้นจาก 2.0% เป็น 2.3% แต่ค่าเงินยูโรก็ยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มอ่อนค่า แม้ว่าขนาดของการลดลงจะจำกัด แต่ก็ยังดูเหมือนขัดแย้ง เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดส่วนใหญ่มักจะสนใจข้อมูลที่สื่อให้ความสำคัญ ซึ่งมักจะเน้นตัวเลขรายเดือนมากกว่าตัวเลขรายปี ปรากฏว่าแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปีจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาผู้บริโภคในรูปแบบรายเดือนกลับลดลง 0.3%

จากมุมมองของการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค ข้อมูลรายปีมีความสำคัญมากกว่าเพราะมันมีโอกาสน้อยที่จะเกิดความบิดเบือนจากปัจจัยผันแปรตามฤดูกาล ในทางกลับกัน ข้อมูลรายเดือนสามารถแสดงผลที่ดูแปลกประหลาดเนื่องจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งทำให้ข้อสรุปที่อิงจากข้อมูลเหล่านี้มีข้อผิดพลาดพื้นฐาน อย่างที่สำคัญคือ รายงานและบันทึกการประชุมจากธนาคารกลางหลัก ๆ ทั้งหมดอ้างถึงอัตราเงินเฟ้อต่อปี ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงรายเดือน ดังนั้น การตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรปจะพิจารณาจากการเร่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อต่อปีที่ 2.3% ไม่ใช่การลดลงของราคารายเดือนที่ 0.3% อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนในขณะนี้กลับให้ความรู้สึกว่าธนาคารกลางยุโรปอาจจะยังคงลดอัตราดอกเบี้ย

การรับรู้ดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลตลาดแรงงาน ตามที่คาดการณ์ อัตราการว่างงานในยูโรโซนน่าจะเพิ่มขึ้นจาก 6.3% เป็น 6.4% ดังนั้น ยูโรอาจประสบกับการลดลงเล็กน้อยเพิ่มเติม